ศัลยกรรม
ศัลยกรรมดึงหน้า Face Young เป็นการผ่าตัดดึงหน้าที่ทำการยกกระชับผิวหน้า และเนื้อเยื่อทั้งหมดของใบหน้าและลำคอ ยกตั้งแต่ชั้น SMAS เพื่อปรับและแก้ไขสภาพของริ้วรอยเหี่ยวย่น ความหย่อนคล้อย และความไม่เรียบเนียนของผิวหนัง กระบวนการนี้มักจะรวมถึงการตัดเนื้อเยื่อส่วนเกิน การยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้า และการจัดเรียงผิวหนังใหม่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูอ่อนวัยและสดใสมากขึ้น เย็บแผลสวย บวมช้ำน้อย ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน
เป็นการผ่าตัดดึงหน้ายกกระชับกล้ามเนื้อผิวที่มีความหย่อนคล้อย ริ้วรอยต่างๆ เป็นการผ่าตัดดึงหน้าทั้งหน้า โดยไล่ไปตั้งแต่บริเวณใบหน้าส่วนบน ใบหน้าส่วนกลางถึงส่วนล่าง และไปจนถึงบริเวณลำคอ ปรับความตึงในการเย็บเก็บกล้ามเนื้อ ทำให้ใบหน้ากลับมาตึงกระชับ เรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติอีกครั้ง โดยพิจารณาการรักษาตามความเหมาะสมของคนไข้ ไม่น้อยเกินไปหรือมากเกินไป
การผ่าตัดดึงหน้าเป็นกระบวนการที่ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้า โดยมีหลายเทคนิคที่สามารถเลือกใช้ได้ ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวหนังและความต้องการของผู้เข้ารับการผ่าตัด เทคนิคที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันทันสมัย ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีแตกต่างกันไป การดึงหน้าแบบ SMAS ช่วยยกกระชับทั้งผิวและชั้นกล้ามเนื้อ ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ การผ่าตัดดึงหน้านี้ควรทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางดึงหน้า และต้องมีการเตรียมตัวอย่างดีเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดี และปลอดภัย ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน และฟื้นตัวเร็วมากขึ้น
ใครสนใจอยากดีงหน้าดึงแก้มห้อย กลับมาหน้าเด็กต้องทำความรู้จักกับวิธี และเทคนิคผ่าตัดดึงหน้า แนวการดึงต้องเลียนแบบโครงสร้างของใบหน้าตามธรรมชาติเดิมของคนไข้ หากเราเลือกเทคนิคการผ่าตัดดึงหน้าที่ถูกต้อง เหมาะสมกับตัวของคนไข้นั้นเอง
เทคนิคการผ่าตัดดึงใบหน้าส่วนกลางและล่าง จะมี 2 เทคนิค ด้วยกัน
Mini Facelift เป็นกระบวนการที่ศัลยแพทย์ทำการผ่าตัดผ่านแผลขนาดเล็กที่มักเป็นการเปิดแผลขนาดเล็กทั้ง 2 ข้าง ตรงด้านบนช่วงขมับลงมาถึงขอบหน้าหูส่วนบน ผ่าตัดดึงหน้าเลาะชั้นใต้ผิวหนังลงไปถึงประมาณใบหน้าส่วนล่าง ในชั้นใต้ผิว SMAS และทำการยกกระชับผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิว เย็บในตำแหน่งใหม่ให้ผิวกระชับ วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีความหย่อนคล้อยของร่องแก้มเพียงเล็กน้อย ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผิวหน้ากระชับขึ้น แต่ยังช่วยลดรอยเหี่ยวย่นและทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียนขึ้น
Full facelift การผ่าตัดดึงทั้งหน้าเป็นการทำศัลยกรรมที่ครอบคลุมทั้งผิวหนัง และเนื้อเยื่อใต้ผิว โดยศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดจะเปิดแผลทั้ง 2 ข้างที่หน้าหูและติ่งหู ขึ้นไปถึงแนวขมับ และลงมาถึงลำคอ ผ่าตัดเลาะเนื้อเยื่อดึงผิวหนัง Skin และเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังไปจนถึงชั้น SMAS ดึงให้ตึงจากนั้นถึงตัดผิวหนังส่วนเกินออก เหมาะสำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยทั้งใบหน้าเพื่อทำการยกกระชับผิวหนังและชั้นกล้ามเนื้อทั้งหมด ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้าดูเรียบเนียนและกระชับขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติและสามารถคงอยู่ได้นานหลายปี
การผ่าตัดดึงคอเป็นกระบวนการที่ศัลยแพทย์ทำการยกกระชับผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิวในบริเวณลำคอ โดยมีการผ่าตัดแผลเล็กบริเวณหลังหูและใต้คาง เพื่อทำการดึงกระชับผิวที่หย่อนคล้อย การผ่าตัดนี้ยังสามารถแก้ไขปัญหาคางสองชั้น (Double Chin) และลดไขมันส่วนเกินบริเวณคอได้อีกด้วย สำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมอยู่ใต้คาง ทำให้คางหย่อนยาน เกิดเป็นเหนียงหลายชั้น มักจะทำร่วมกับการทำแบบ Full facelift ไปพร้อมกัน แล้วดึงให้ตึง ตัดส่วนเกินออก แล้วเย็บชั้น SMAS ให้ตึงตามแนวรูป เพื่อผลลัพธ์ในการผ่าตัดชัดเจนและดียิ่งขึ้น พร้อมกับผ่าตัดยกกระชับคอซ่อนแผลหลังหูทั้งสองข้าง
การดึงหน้า (Facelift) เป็นการผ่าตัดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้าได้อย่างเห็นผล แต่รู้หรือไม่ว่าการดึงหน้าให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั้นต้องดึงลึกถึงชั้น SMAS หรือ Superficial Musculo Aponeurotic System แล้ว SMAS คืออะไร? และทำไมถึงสำคัญกับการดึงหน้า?
SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic System) คือชั้นกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่อยู่ระหว่างผิวหนังและชั้นไขมันของใบหน้า มีหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างกล้ามเนื้อใบหน้าและผิวหนัง เมื่ออายุมากขึ้น ชั้น SMAS นี้จะเริ่มหย่อนคล้อยตามธรรมชาติ ทำให้ผิวหน้าหย่อนตามไปด้วย เกิดริ้วรอย ร่องลึก และการหย่อนคล้อยต่างๆ บนใบหน้า
การดึงหน้าโดยดึงเพียงชั้นผิวหนังอาจให้ผลลัพธ์เพียงชั่วคราวและไม่ยั่งยืน แต่การดึงถึงชั้น SMAS จะช่วยยกกระชับใบหน้าในระดับที่ลึกกว่า และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า เนื่องจากชั้น SMAS เป็นชั้นที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้า การดึงและจัดเรียงใหม่จะช่วยคืนความกระชับและความยืดหยุ่นของใบหน้าได้อย่างแท้จริง ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสกว่าเดิม
ผลลัพธ์ที่ยาวนาน: การดึงชั้น SMAS ช่วยให้ผลลัพธ์ของการดึงหน้ายั่งยืนกว่าการดึงเพียงชั้นผิวหนัง ทำให้ใบหน้าคงความอ่อนเยาว์ได้นานหลายปี
ดูเป็นธรรมชาติ: ด้วยการจัดเรียงชั้นกล้ามเนื้อใหม่ การดึงหน้าจะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ลดความเสี่ยงในการเกิดผิวที่ตึงเกินไป หรือดูไม่เป็นธรรมชาติ
การฟื้นฟูที่ครบวงจร: การดึงถึงชั้น SMAS ช่วยฟื้นฟูใบหน้าในทุกมิติ ทั้งความกระชับของผิวหนัง และการยกกระชับของกล้ามเนื้อ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนวัยจากภายในสู่ภายนอก
การดึงหน้ากด้วยเทคนิค DCH FACE YOUNG ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
การดึงหน้าช่วยลดปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยในบริเวณใบหน้า ทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์และลดริ้วรอยบริเวณแก้ม ริ้วรอยตา และริ้วรอยบนหน้าแบบเฉพาะจุดได้ด้วย
ช่วยปรับรูปหน้าให้สวยงามและยังคงดูธรรมชาติ โดยปรับรูปกรามและโครงสร้างใบหน้าให้ดูดีและสมส่วนมากขึ้น
ช่วยแก้ปัญหาผิวที่อยู่ได้นาน ต่างจากการรักษาความหย่อนคล้อยด้วยวิธีอื่นๆ ที่อาจจะต้องมาทำบ่อยๆ
ทำให้คนรู้สึกมั่นใจและมีความรู้สึกดีต่อตัวเอง ซึ่งอาจส่งผลในด้านจิตใจและการใช้ชีวิตประจำวัน
อาจมีอาการบวมหลังการผ่าตัด แพทย์จะให้ทานยาระงับอาการ ประคบเย็นที่ใบหน้า และนอนยกศีรษะสูงกว่าลำตัวในช่วงประมาณ 3 วันแรก
ควรนอนยกศีรษะสูง การนอนยกศีรษะสูงช่วยลดอาการบวมและช้ำหลังการผ่าตัด
แผลจากการผ่าตัดที่ศีรษะ ต้องรอเล็กน้อยก่อนเริ่มสระผม
ควรควบคุมเรื่องน้ำหนักตัวให้ดี เพราะส่งผลต่อผิวหนังบริเวณใบหน้า
ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักอย่างน้อย 4 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวเต็มที่ ใส่ผ้าSupport รัดกรอบหน้าตลอด
ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ การดูแลแผลและการรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเพิ่มความเร็วในการฟื้นตัว
พยายามอย่าแกะหรือจับบริเวณแผลผ่าตัด และไม่ให้แผลสัมผัสสิ่งสกปรก เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ หากมีอาการบวมแดงอักเสบผิดปกติ หรือมีเลือดไหลออกมา ให้รีบเข้ามาพบศัลยแพทย์เพื่อตรวจดูอาการ ห้ามซื้อยามารับประทานเอง เพราะอาจเกิดอาการที่รุนแรงขึ้นยิ่งกว่าเดิม
หลังจากการดึงหน้าคุณอาจต้องใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวและลดอาการบวมช้ำ โดยในช่วงสัปดาห์แรก อาจมีอาการบวมและช้ำที่เห็นได้ชัด ระหว่างนี้ควรใช้ผ้า Support รัดกรอบหน้า แนะนำว่าให้ทำต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือนหลังผ่าตัด ซึ่งจะค่อยๆ ลดลงในเวลาไม่กี่วัน ในช่วงนี้แนะนำให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมาก อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไปประมาณ 2-3 สัปดาห์ คุณจะสามารถกลับไปทำกิจกรรมปกติได้ แต่เลี่ยงกิจกรรมหนักๆที่อาจจะทำให้หน้ามีการกระทบกระเทือนได้ แต่หลังผ่าตัดดึงหน้าภายใน 2-3 เดือน รวมถึงอาการต่างๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ และจะหายสนิทภายใน 6 เดือน
หลายคนอาจจะสงสัย ว่าการดึงหน้าอยู่ได้นานไหม? ผลลัพธ์จากการดึงหน้าสามารถคงอยู่ได้นาน 7-10 ปี ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ สภาพผิว การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัด และการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ควรทราบว่าการดึงหน้าไม่สามารถหยุดยั้งกระบวนการชราได้ เพียงแต่ช่วยชะลอและฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ให้กลับมาอีกครั้ง ลักษณะของผิวหน้าเราจะดูอ่อนวัยมากขึ้น หลังจากนั้นผิวหน้าเราก็จะค่อยๆ หย่อนคล้อยไปตามวัยปกติ แต่หลังดึงหน้าไปประมาณ 7 – 10 ปี สามารถปรึกษาเพื่อที่จะดึงหน้าได้อีกครั้ง
ดูแลผิวหน้าเป็นประจำการใช้ครีมบำรุงที่เหมาะสมกับสภาพผิว และการปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญ
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักและผลไม้ ช่วยรักษาความยืดหยุ่นของผิว
การทำหัตถการกระตุ้นคอลลาเจนสม่ำเสมอ เช่น มีการนวดเพื่อกระชับ นวดกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด จะช่วยยืดระยะเวลาผลลัพธ์ของการดึงหน้าได้นานมากขึ้น
เลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ: เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป และความเครียด
ลูกค้าทุกท่านตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เพราะที่ Dr.CHEN Surgery Hospital…..
ทำให้คืนความอ่อนเยาว์ ทำให้ใบหน้าดูเด็กลง ดูสดใสขึ้นและมีความตึงกระชับ เหมือนได้ย้อนวัย การประเมินใบหน้า และให้คำปรึกษาโดยทีมแพทย์ Dr.CHEN ด้วยโปรแกรมสแกนใบหน้า 3D SCAN เห็นผลก่อนทำ!!ความแม่นยำกว่า 90% ซึ่งเป็นโปรแกรมทางการแพทย์นำเข้าจากสวิสเซอร์แลนด์
ทำให้เห็นผลลัพธ์ก่อนผ่าตัดจริง และออกแบบได้ตามความต้องการที่คนไข้ต้องการ คนไข้ทุกท่านประทับใจ อุ่นใจ คลายกังวล มั่นใจ มาตรฐานการผ่าตัดระดับสากล ความปลอดภัย ผลลัพธ์ เห็นผลชัดเจนที่ตรงใจ