ศัลยกรรมปลูกผม คือ การนำรากผมบริเวณหลังศีรษะท้ายทอยและเหนือกกหู ที่มีความแข็งแรงและไม่ส่งผลต่อฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) ที่ทำให้ผมร่วง ผมบาง และผมเส้นเล็กลง มาปลูกผมลงบริเวณที่มีปัญหาศีรษะล้าน ศีรษะเถิก ผมบาง ผมร่วง และยังสามารถปลูกผมทับในบริเวณที่เป็นแผลเป็นได้ด้วย
โดยการศัลยกรรมปลูกผมสามารถช่วยแก้ไขปัญหาผมบาง ศีรษะเถิก ศีรษะล้านได้ และผมที่เกิดขึ้นมาใหม่จากการปลูกผมจะมีวงจรชีวิตเหมือนกับผมจริงๆ สามารถร่วงและขึ้นได้ใหม่ บางคนจึงอาจเรียกการศัลยกรรมปลูกผมว่า “การปลูกผมถาวร”
สาเหตุของอาการผมร่วง ผมบาง หัวล้าน
ปัญหาผมร่วง-ผมบาง-ศีรษะล้าน ถือเป็นปัญหาที่สามารถเกิดได้ทุกเพศทุกวัย ทำให้หมดความมั่นใจ เพราะเส้นผมคือส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิกของเราได้ ซึ่งปัญหาผมร่วง-ผมบาง-ศีรษะล้าน เกิดได้หลากหลายสาเหตุด้วยกัน
- กรรมพันธุ์ เป็นปัญหาที่ส่งจากรุ่นต่อรุ่น โดยส่วนใหญ่แล้วอาการผมร่วงจากกรรมพันธุ์ จะเริ่มแสดงในช่วงอายุตั้งแต่ 18-25 ปี และจะร่วงมากขึ้นเรื่อยๆตามวัย และเป็นปัญหาในเพศชายส่วนใหญ่ รวมถึงฮอร์โมน DHT เกิดจากการที่ฮอร์โมน Testosterone ไปเจอกับเอนไซม์ 5α-Reductase จนกลายมาเป็นฮอร์โมน DHT ซึ่งการทำงานของฮอร์โมน DHT จะส่งผลให้เส้นผมบนหนังศีรษะค่อยๆเล็กลง ผมที่งอกใหม่ก็จะบางลง อ่อนแอลง สุดท้ายเส้นผมก็จะไม่ขึ้น และหายไปจากหนังศีรษะในที่สุด
- โรคผมร่วงเป็นหย่อม หรือ Alopecia Areata จะมีลักษณะผมร่วงเป็นวงกลม หย่อมๆ หรือกระจายทั้งศีรษะ โดยพบมากในวัย 20-40 ปี ซึ่งสาเหตุเกิดจากความแปรปรวนของภูมิคุ้มกันในร่างกายที่ไปทำลายรากผม และหยุดการเจริญของเส้นผม
การรักษาด้วยการปลูกผม
การปลูกผมเป็นการย้ายรากผมจากจุดที่เซลล์ผมแข็งแรง (ผมหลังศีรษะ) ไปปลูกยังบริเวณที่มีปัญหา อย่างเช่นบริเวณที่มีศีรษะล้าน-บาง ซึ่งวิธีนี้จึงทำให้การปลูกผม เป็นวิธีที่ได้เห็นผลไวที่สุด และเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังปลูกนั่นเอง เพียงแค่เสียเวลาในการปลูก 8 ชั่วโมง เท่านั้น และที่สำคัญ ปัจจุบันมีเทคนิคการปลูกผมให้เลือกหลายเทคนิค
เทคนิคการปลูกผมถาวร
เทคนิคการปลูกผมถาวรในปัจจุบันจะเป็นวิธีย้ายเซลล์รากผมไปยังตำแหน่งที่พบปัญหาผมร่วง ผมบาง ซึ่งจะทำให้บริเวณที่ปลูกผมมีผมเพิ่มขึ้นมาเหมือนกับผมจริงๆ และผมที่ปลูกสามารถเกิดและหลุดร่วงได้ตามวงจรชีวิตของเส้นผมทั่วไป โดยเรียกวิธีรักษานี้ว่า การปลูกผมถาวร โดยทางคลินิกให้บริการปลูกผมกับคุณหมอผู้มากประสบการณ์ และทีมงานคุณภาพ 3 เทคนิคนี้ ได้แก่
🔸FUE จะเป็นเทคนิคเริ่มต้นในการปลูกผม รูแผลจะมีขนาดเล็ก เฉลี่ยทั่วศรีษะ ภายหลังการปลูกผมเมื่อหายดีแล้ว จะกลืนไปกับหนังศรีษะ ดูธรรมชาติค่ะ
🔸AMF เทคนิคนี้จะเพิ่มจาก FUE ขึ้นมาคือมีการนำกราฟผมไปตัดแต่งให้ได้มีขนาดเล็กลง สามารถปลูกได้ถี่กว่า และผลลัพธ์ที่ออกมาจะได้แนวผมที่ดูแน่นค่ะ
🔸DHI เป็นเทคนิคการใช้เครื่องมือพิเศษในการปลูกผม เพิ่มความถี่และความแข็งแรงของกราฟผม
ออกแบบแนวไรผม Case by Case ไม่ต้องพักฟื้น ใช้ชีวิตได้ปกติ ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ เส้นผมเรียงสวย กราฟต์แน่น
ปลูกผมเสริมความมั่นใจต้องที่ DR.CHEN Clinic